วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558


สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน


                                                                                 ตีนเป็ด
                                              
ต้นไม้ประจำจังหวัด
สมุทรสาคร
ชื่อพันธุ์ไม้
สัตบรรณ
ชื่อสามัญ
White Cheesewood
ชื่อวิทยาศาสตร์
Alstonia scholaris R. Br.
วงศ์
APOCYNACEAE
ชื่ออื่น
กะโนะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), จะบัน (เขมร-ปราจีนบุรี), ชบา ตีนเป็ด พญาสัตบรรณ (ภาคกลาง), ตีนเป็ดขาว (ยะลา), บะซา ปูแล ปูลา (มลายู-ปัตตานี), ยางขาว (ลำปาง), สัตตบรรณ (ภาคกลาง, เขมร-จันทบุรี) หัสบัน (กาญจนบุรี)
ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ลำต้นเป็นพูพอน เปลือกสีเทาดำ มียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นวงรอบๆ ข้อ แผ่นใบเป็นรูปไข่กลับ ปลายใบมนเว้าเข้าเล็กน้อย เส้นใบถี่ขนานกัน ออกดอกเป็นกระจุกช่อใหญ่สีขาวที่ปลายกิ่ง ก้านช่อดอกออกซ้อนกันเหมือนฉัตรประมาณ 2–3 ชั้น กลีบรองดอกมีขนาดเล็ก มีขนสีขาวอมเหลืองนวล กลิ่นหอม ผลเป็นฝักยาวเหมือนถั่วฝักยาว เมื่อแก่จัดจะแตกเป็น 2 ซีก มีเมล็ดจำนวนมาก ลักษณะเมล็ดเป็นรูปขนานแบนๆ
ขยายพันธุ์
เพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม
ดินร่วนซุย แสงแดดจัด
ถิ่นกำเนิด
หมู่เกาะโซโลมอนและมาเลเซีย และป่าดงดิบภาคใต้ ตะวันออกเฉียงใต้ และภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย

ต้นพญาสัตบรรณ (ต้นตีนเป็ด)



          ตีนเป็ด เป็นไม้พื้นบ้านของไทย จัดอยู่ในวงศ์ Apocynaceae พันธุ์ไม้วงศ์นี้มีทั้ง ไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้ล้มลุก และจำนวนมากที่เป็นเถา กระจายพันธุ์อยู่ในเขตร้อน ทั่วโลก และเป็น ไม้ประดับที่นิยมปลูกกันมาก เช่น ยี่โถ รำเพย พังพวยฝรั่ง เป็นต้น ลักษณะเด่นของพันธุ์ไม้วงศ์นี้ สังเกตได้ง่ายจากน้ำยางสีขาว ใบแบบขึ้นตรงกันข้ามหรือเป็นวงรอบ กิ่งดอกตูม ซึ่งมีกลีบดอกเวียนซ้อนทับไปทางเดียวกัน ผลเป็นแบบฝักคู่เชื่อมติดกับฐาน ตีนเป็ด ถือว่าเป็นไม้โตเร็วชนิดหนึ่งที่ควรทำการศึกษา เนื่องจากเนื้อไม้ของตีนเป็ด สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ประกอบกับเป็นไม้ที่ไม่ทิ้งใบทำให้พื้นที่เขียวชะอุ่ม ดินชุ่มชื้น จึงสามารถนำไปปลูกเพื่อช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมได้ดีทั้งยังมีนวทางที่น่าสนใจสำหรับ ผู้ที่จะปลูกเพื่อหวังผลทางเศรษฐกิจ เพราะไม้ตีนเป็ดมีผู้สนใจอบถามกันมากในการใช้​เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมการทำดินสอดำในบ้านเรา ตีนเป็ด เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 35-40 ม.เรือนยอดของต้นเล็กรูปเจดีย์ ต้นใหญ่ เรือนยอดค่อนข้างแบน โคนต้นมักจะเป็นพูพอนลำต้นเป็นร่องตามยาว เปลือกสีเทาหรือเทาอมเหลือง หรือสีน้ำตาลถึงน้ำตาลแดงค่อนข้างหนาแต่เปราะเรียบหรือแตกเป็นร่องเปลือก ชั้นในสีน้ำตาลมีน้ำยางสีขาวไหลมาก
ดอกขนาดเล็กสีขาวอมเขียว ออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ปากท่อของกลีบดอกมีขนยาวปุกปุย ผลเป็นฝักกลมยาวเรียวเกลี้ยงและห้อยลงสู่พื้นดิน ฝักออกเป็นคู่ขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-5 ซม. ยาว 30-40 ซม. เมล็ดภายในรูปทรงบรรทัดแคบ ๆ ยาวประมาณ 7 มม. มีขนยาวอ่อนนุ่มปุกปุยติดอยู่เป็นกระจุกที่ปลายทั้งสองข้าง เมื่อฝักแก่จะแตกออกเมล็ดซึ่งมีขนจะปลิวกระจายไป ตามลม ระยะเวลาการเป็นดอกผล ดอกเริ่มบานประมาณเดือนตุลาคม-ธันวาคม และจะเริ่มติดฝักประมาณเดือนมกราคม ลักษณะเนื้อไม้มีมีแก่น เนื้อไม้สีขาวอมเหลือง เสี้ยนตรง เนื้อหยาบ แต่สม่ำเสมอค่อนข้างเหนียว เนื้ออ่อนไสกบตบแต่งง่ายมาก ความถ่วงจำเพาะประมาณ 0.41
การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติ ไม้ตีนเป็ดมีเขตการกระจายพันธุ์ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ลักษณะการขึ้น มักกระจัดกระจายอยู่ห่าง ๆ กัน ไม่พบอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม การกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติค่อนข้างต่ำ มักไม่พบลูกไม้บริเวณใต้ลำต้นหรือใกล้เคียงต้นแม่ในป่าธรรมชาติ มักพบอยู่ในบริเวณป่าที่ราบบริเวณป่าพง และริมลำห้วยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบขึ้นอยู่ตามริมห้วยในป่าเบญจพรรณ ไม่พบไม้ตีนเป็ดในป่าเต็งรังหรือบริเวณป่าที่สูงในป่าดงดิบทางภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงใต​้ จะขึ้นทั่วไปตามชายป่าพรุ และในป่าที่ลุ่มตั้งแต่ระดับน้ำทะเลปานกลางถึง 1,000 ม. ซึ่งสามารถพบเห็นได้ประปราย 2 ข้างถนนหลวง ในต่างประเทศพบที่อินเดียว จีนตอนใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และควีนแลนด์
           การเพาะกล้าไม้ตีนเป็ด ก่อนอื่นต้องมีเมล็ดพันธุ์ที่ดีเสียก่อน การเลือกเก็บเมล็ดพันธุ์จากต้นแม่ที่ดีจะให้กล้าไม้คุณภาพดี ซึ่งเมื่อนำไปปลูกสร้างสวนป่าก็จะให้ผลผลิตเน​ื้อไม้ ที่ดีด้วย การเลือกแม่ไม้เพื่อเก็บเมล็ดต้องดูว่ามีลักษณะลำต้นเปลาตรง สูงเด่น และมีเรือนยอด ที่สมบูรณ์ ลำต้นแข็งแรง ไม่มีโรคและแมลงรบกวน เมื่อเลือกหาแม่ไม้ที่ดีได้แล้วควรเก็บเมล็ด ให้ถูกต้องตามฤดูกาล เนื่องจากเมล็ดของต้นตีนเป็ดมีขนาดเล็กเบามีขน เมื่อฝักแก่จะแตกออกทำให้เมล็ดภายในปลิวกระจายไปตามลม หากปล่อยให้ฝักแตกแล้วจะไม่สามารถเก็บเมล็ดได​้โดยทั่วไปจะเก็บเมล็ดได้ราวเดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนเมษายน ซึ่งแต่ละท้องที่จะแตกต่างกัน เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ ความชื้น และปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้นตีนเป็ดขึ้นอยู่ ถ้าต้นแม่ที่เลือกอยู่ในเขตภาคเหนือและอีสานจะแตกต่างกันมากกับตีนเป็ดที่ขึ้นทางภาคใต้ ขึ้นอยู่กับการคอยสังเกตดูว่า ต้นแม่นั้นออกดอกเมื่อใดและเป็นฝักเวลาใด การเก็บเมล็ดบนลำต้นใช้วิธีสอยฝัก ลักษณะฝักแก่เป็นสีน้ำตาล แต่ถ้าปล่อยให้ฝักเป็นสีน้ำตาลหมดทั้งฝักเป็นการเสี่ยงต่อโอกาสที่ฝักจะแตก และเมล็ดปลิวกระจายไปได้ง่าย ควรเก็บเมื่อฝักห่ามใกล้แก่ สีของฝักเป็นสีน้ำตาลปนเขียว ฝักที่เก็บได้จะต้องนำมาตากแดดประมาณ 2 วัน ฝักจะแตกสามารถแยกเอาเมล็ดออกได้ การตากมีข้อควรระวัง คือ เมื่อฝักแตกเมล็ดจะถูกลมปลิวต้องใช้มุ้งลวดพลาสติก คลุมฝักเอาไว้ตลอดเวลาที่ตากเมล็ดที่แยกออกจากฝักแล้วหากไม่นำไปเพาะทันทีจะต้องเก็บไว้ในสภาพปลอดความชื้นด้วยการเก็บใส่ถุงพลาสติกปิดสนิท แล้วเก็บไว้ในอาคารหรือตู้เย็นอัตราการงอกของเมล็ดที่เก็บมาจาก ต้นใหม่ ๆจะดีกว่าเมล็ดที่เก็บค้างปีเอาไว้

                                             ต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาคร - ต้นสัตบรรณ
ใบพญาสัตบรรณ ออกเป็นกลุ่มที่บริเวณปลายกิ่ง โดยหนึ่งช่อจะมีใบประมาณ 5-7 ใบ ใบมีสีเขียวเข้ม ใบยาวรี ปลายใบมนโคนใบแหลม ขนาดของใบยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร ก้านใบสั้นเมื่อเด็ดออกจะมีน้ำยาวสีขาว

  ดอกพญาสัตบรรณ ออกดอกเป็นช่อคล้ายดอกเข็ม ออกดอกที่ปลายกิ่งหรือส่วนยอดของลำต้น หนึ่งช่อจะมีกลุ่มดอกประมาณ 7 กลุ่มดอกมีขาวอมเหลืองหรือเขียว ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
   ผลพญาสัตบรรณ ผลออกเป็นฝัก ลักษณะฝักยาว เป็นฝักคู่หรือฝักเดี่ยว ลักษณะเป็นส้น ๆ กลมเรียวมีความประมาณ 20-30 เซนติเมตร เมื่อแก่จะแตกเป็น 2 ซีก มีขุยสีขาวสามารถปลิวไปตามลมได้ ส่วนในฝักจะมีเมล็ดเล็ก ๆ จำนวนมากลักษณะเป็นรูปขนานแบน ๆ ติดอยู่กับขุย


สรรพคุณของพญาสัตบรรณ
  1. เปลือกต้นมีรสขม ใช้เป็นยาขมช่วยให้เจริญอาหาร (เปลือกต้น)
  2. เปลือกต้นสัตยาบรรณ สรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน (เปลือกต้น)
  3. น้ำยางจากต้นใช้หยอดหูแก้อาการปวดหูได้ (ยาง)
  4. น้ำยางจากต้นใช้อุดฟัน เพื่อแก้อาการปวดฟันได้ (ยาง)
  5. ใบอ่อนใช้ชงดื่มช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน หรือโรคลักปิดลักเปิดได้ (ใบ)
  6. เปลือกต้นใช้แก้หวัด แก้อาการไอ รักษาหลอดลมอักเสบ (เปลือกต้น)
  7. ช่วยแก้ไข้ (เปลือกต้น,ใบ)
  8. ดอกช่วยแก้ไข้เหนือ ไข้ตัวร้อน (ดอก)
  9. เปลือกต้นต้มน้ำดื่ม สรรพคุณช่วยรักษาโรคมาลาเรีย (เปลือกต้น)
  10. ช่วยแก้โลหิตพิการ (ดอก)
  11. ใบพญาสัตบรรณ สรรพคุณช่วยรักษาโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังได้ (ใบ)
  12. เปลือกต้นพญาสัตบรรณช่วยรักษาโรคบิดท้องร่วง ท้องเดินเรื้อรัง โรคลำไส้และลำไส้ติดเชื้อ (เปลือกต้น)
  13. เปลือกต้นใช้เป็นยาสมานลำไส้ได้ (เปลือกต้น)
  14. ช่วยบำรุงกระเพาะ (ยาง)
  15. กระพี้ สรรพคุณช่วยขับผายลม (กระพี้)
  16. ช่วยขับพยาธิไส้เดือน (เปลือกต้น)
  17. ช่วยขับน้ำเหลืองเสีย (เปลือกต้น)
  18. ช่วยขับระดูของสตรี (เปลือกต้น)
  19. ช่วยขับน้ำนม (เปลือกต้น)
  20. ใบใช้พอกเพื่อดับพิษต่างได้ (ใบ)
  21. ในประเทศอินเดียมีการใช้ใบและยางสีขาวในการนำมาใช้รักษาแผล แผลเปื่อย และอาการปวดข้อ (ใบ,ยาง)
  22. ยาง ใช้แผลที่เป็นตุ่มหนอง ช่วยทำให้แผลแห้งเร็ว (ยาง)
  23. เปลือกต้นใช้ต้มน้ำอาบช่วยรักษาผดผื่นคัน (เปลือกต้น)
ประโยชน์ของพญาสัตบรรณ
  1. พญาสัตบรรณเป็นพืชที่มีฤทธิ์ทางอัลลีโลพาที (Allelopathy) สารสกัดจากใบพญาสัตบรรณสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของต้นคะน้า ส่วนสารสกัดจากเปลือกของลำต้นก็จะช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของข้าวโพด ข้าว ถั่วเชียวผิวดำ ถั่วเขียวผิวมัน และคะน้าได้
  2. เนื้อไม้สามารถนำไปทำทุ่นของแหและอวนได้ (ในบอร์เนียว)
  3. เนื้อไม้หยาบ อ่อนแต่เหนียวสามารถใช้ทำหีบใส่ของ หีบศพ ทำโต๊ะ เก้าอี้ ฝักมีดของเล่นสำหรับเด็ก รองเท้าไม้ หรือไม้จิ้มฟันได้
  4. เนื้อไม้ ใช้ทำฟืน หรือนำใช้ทำโครงสร้างส่วนต่าง ๆของบ้าน เช่น เสาบ้าน เป็นต้น
  5. สารสกัดจากน้ำมันหอมระเหยของดอกพญาสัตบรรณ สามารถใช้ไล่ยุงได้
  6. ต้นพญาสัตบรรณนอกจากจะปลูกไว้เพื่อให้ร่มเงา และยังเป็นไม้มงคลนาม ที่นิยมปลูกไว้ประจำบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
  7. ต้นพญาสัตบรรณจัดเป็นไม้มงคลนาม ปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะคนโทยโบราณเชื่อว่าการปลูกต้นพญาสัตบรรณไว้ประจำบ้านจะทำให้มีเกียรติยศ จะทำให้ได้รับการยกย่องและการนับถือจากบุคคลทั่วไป ซึ่งความหมายของต้นก็มาจากคำว่าพญา ซึ่งมีความหมายว่า ผู้เป็นใหญ่ที่ควรยกย่องและเคารพนับถือ ส่วนคำว่า สัต ก็มีความหมายว่า สิ่งที่ดีงาม ความมีคุณธรรมนั่นเอง และตามความเชื่อจะนิยมปลูกต้นพญาสัตบรรณไว้ทางทิศเหนือและผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์ แต่ถ้าอยากให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นไปอีกผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพนับถือหรือเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดี ก็จะเป็นสิริมงคลมากยิ่งขึ้น                             

วิดีโอ


อ้างอิง
 https://www.youtube.com

 http://www.panmai.com/PvTree/tr_61.shtml


 https://sites.google.com/site/cwk270755/phya-satbrrn                  



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น